High Rise

สำหรับอาคารสูง

Total Solution สำหรับอาคารสูง

การออกแบบระบบป้องกันฟ้าผ่าภายนอกอาคารโดยทั่วไป เช่น ระบบตัวนำล่อฟ้า ระบบตัวนำลงดิน ระบบรากสายดิน เพื่อป้องกันอันตรายและความเสียหายต่าง ๆ ที่จะเกิดขึ้นกับอาคาร อาจจะยังไม่เพียงพอกับอาคารสมัยใหม่ ที่ในปัจจุบันมีลักษณะเป็น Smart Building ซึ่งประกอบไปด้วยอุปกรณ์ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ที่หลากหลาย สำหรับขับเคลื่อนระบบปฏิบัติการต่าง ๆ ภายในอาคาร รวมไปถึง จำเป็นต้องมีการออกแบบการป้องกันฟ้าผ่าภายใน เพื่อป้องกันผลกระทบจากอิมพัลส์แม่เหล็กฟ้าผ่า (LEMP: Lightning Electromagnetic Impulse) อีกด้วย เช่น Grounding and Bonding Network, Shielding, การป้องกันเสิร์จ เป็นต้น

ดังนั้น เพื่อให้เกิดประสิทธิผลที่ดีในการป้องกันฟ้าผ่าทั้งภายนอกและภายใน

Kumwell ส่งมอบโซลูชั่น

ออกแบบติดตั้งโดยใช้สายตัวนำชนิด Hot-Dip Galvanized Steel Rounded Conductor เป็นตัวนำลงดินหลักที่ติดเพิ่มเข้าไปกับเหล็กโครงสร้างคอนกรีต เพื่อการป้องกันฟ้าผ่าและทำหน้าที่เป็นตัวป้องกัน (Shielding) ที่ดีของอาคารซึ่งช่วยลดผลกระทบจากการเหนี่ยวนำหรือการรบกวนที่เกิดจากอิมพัลส์แม่เหล็กฟ้าผ่า และการออกแบบโดยใช้ฐานรากของอาคารเป็นรากสายดิน เพื่อให้เกิดความปลอดภัยและมีความคงทนถาวร

การออกแบบตัวนำล่อฟ้าโดยคำนึงถึงพื้นที่ใช้งาน และทัศนียภาพ ด้วย Self-Standing Lightning Pole

  • Lightning Pole เป็นตัวนำล่อฟ้าที่มีลักษณะเป็นเสาสูง นิยมนำไปใช้ในการป้องกันฟ้าผ่าสำหรับอาคารสูง ที่ไม่ต้องการให้มีแท่งตัวนำล่อฟ้าแบบ Air Terminal หลายๆ จุด เพื่อทัศนียภาพที่สวยงามของดาดฟ้า เช่น ลานสันทนาการ สวนหย่อม สระว่ายน้ำ เป็นต้น หรือนิยมใช้เป็นเทคนิคในการออกแบบ เพื่อให้ได้พื้นที่ป้องกันที่เพิ่มขึ้น และลดจำนวนแท่งตัวนำล่อฟ้าแบบ Air Terminal.
  • Self-Standing Lightning Pole ออกแบบให้มีขนาดเล็กกว่าเสาสูงทั่วไป, น้ำหนักเบา, ขนย้ายสะดวก, ติดตั้งง่าย, มีความแข็งแรง ทนแรงลมได้มากถึง 160 km./hr. (Wind Load Tested)

การป้องกันฟ้าผ่าด้านข้างของอาคารด้วย Strike Pad

สำหรับอาคารสูงที่มีความสูงมากกว่า 60 เมตรขึ้นไป ตามมาตรฐาน การป้องกันฟ้าผ่า วสท. และมาตรฐาน IEC 62305-3 ได้ระบุว่ามีโอกาสที่จะได้รับความเสียหายจากฟ้าผ่าด้านข้างของอาคารได้ จึงจำเป็นต้องมีการออกแบบและติดตั้งตัวนำล่อฟ้าที่มีความเหมาะสมในการรับฟ้าผ่าด้วย

สำหรับการป้องกันฟ้าผ่าด้านข้างของอาคารนั้นสามารถทำได้ 2 วิธี

1. การติดตั้งโดยใช้ Strike Pad เพื่อรับฟ้าผ่า

2. การใช้วัสดุปิดผิวอาคารประเภทโลหะ เป็นตัวรับฟ้าผ่าโดยธรรมชาติ เช่น อะลูมิเนียมแคลดดิ้ง (Aluminium Cladding), 

ฟาซาด (Façade), เฟรมเหล็กยึดกระจก (Steel Frame) เป็นต้น

การออกแบบระบบตัวนำลงดินโดยใช้สายตัวนำ Hot-Dip Galvanized Steel Round Conductor ฝังในคอนกรีต

  • การใช้ Hot-Dip Galvanized Steel Conductor เป็นตัวนำลงดินหลักที่ติดเพิ่มเข้าไป โดยมีการประสานศักย์กับเหล็กโครงสร้างในคอนกรีต เป็นวิธีที่ได้รับการยอมรับจากมาตรฐาน วสท. และ IEC ซึ่งทำให้ระบบตัวนำลงดินได้ค่าอิมพิแดนซ์รวมที่ต่ำมาก ช่วยลดอันตรายจากแรงดันฟ้าผ่าและเป็นองค์ประกอบโครงสร้างพื้นฐานของการทำ EMC ที่ดีให้กับอาคาร
  • Kumwell Hot-Dip Galvanized Steel

1. ไม่มีความเสี่ยงต่อการโดนขโมยเหมือนทองแดง

2. มีสีที่แตกต่างจากเหล็ก Rebar ทำให้ตรวจสอบได้ง่าย

3. ราคาประหยัดคุ้มค่าเมื่อเทียบกับวัสดุอื่น

4. ผ่านการทดสอบคุณสมบัติตามมาตรฐาน IEC 62561-2

การ Bonding องค์ประกอบโลหะที่อยู่ภายนอกเข้ากับตัวนำลงดินที่ฝังในคอนกรีตด้วย Earth Point

  • Earth Point เป็นจุดเชื่อมต่อระหว่าง Hot-Dip Galvanized Steel Conductor ที่ฝังในคอนกรีตกับอุปกรณ์ต่างๆ ภายนอกที่ต้องการต่อลงดิน รวมถึงใช้เป็นจุดเชื่อม (Bonding) ส่วนโลหะต่างๆ
  • ติดตั้งโดยให้ส่วนหางของ Earth Point เชื่อมต่อเข้ากับตัวนำลงดิน และส่วนหัวของ Earth Point อยู่เสมอไม้แบบที่ใช้เทคอนกรีตบริเวณหน้าเสาหรือฝาผนัง เพื่อไว้สำหรับเป็นจุดเชื่อม (Bonding) โครงโลหะหรืออุปกรณ์ต่างๆ
  • Earth Point ผลิตจากวัสดุชนิด Stainless Steel เพื่อป้องกันการกัดกร่อน โดยมีเกลียวขนาด M10 เพื่อใช้เชื่อมต่อกับอุปกรณ์ต่างๆ และผ่านการทดสอบคุณสมบัติตามมาตรฐาน IEC 62561-1

การออกแบบระบบรากสายดินโดยใช้ฐานรากคอนกรีต 

Concrete Foundation Grounding

รากสายดินฐานรากที่ใช้ Footing หรือเสาเข็ม ร่วมกับการใช้คานคอดิน

รากสายดินฐานรากที่ใช้พื้นชั้นล่างสุด (Mat Foundation) ของอาคาร

  • การออกแบบระบบรากสายดินโดยใช้ฐานรากคอนกรีต (Concrete foundation Grounding) เป็นวิธีที่ได้รับการยอมรับจากมาตรฐานต่างๆ เช่น วสท., IEC, IEEE และ DIN เป็นต้น รากสายดินฐานรากคอนกรีตต้องประกอบด้วยตัวนำที่ติดตั้งฝังในฐานรากคอนกรีตของอาคารที่อยู่ต่ำกว่าระดับผิวดิน และต้องเป็นคอนกรีตส่วนที่สัมผัสกับดินโดยตรง โดยการติดตั้งรากสายดินฐานรากคอนกรีต แบ่งเป็น 2 รูปแบบหลัก ๆ คือ
  1. รากสายดินฐานรากที่ใช้ Footing หรือเสาเข็ม ร่วมกับการใช้คานคอดิน การติดตั้งแบบนี้งานฐานราก Footing และเสาเข็มจะเปรียบเสมือน Ground Rod ส่วนคานคอดินจะเปรียบเสมือน Ground Loop รอบอาคาร
  2. การใช้พื้นชั้นล่างสุด (Mat Foundation) ของอาคารเป็นรากสายดิน โดยฝังสายตัวนำให้มีลักษณะเป็นตาข่าย เปรียบเสมือนการใช้รากสายดินที่เป็น Ground Grid
  • ประโยชน์ของการใช้รากสายดินฐานรากคอนกรีต
  • ได้ค่า Ground Resistance และ Ground Impedance 
    
    ที่ต่ำมาก เนื่องจากมีปริมาตรคอนกรีตที่มีหน้าสัมผัสกับดินอยู่ทั่วพื้นที่ ทำให้กระจายกระแสลงดินอย่างรวดเร็ว
  • มีความคงทนถาวรคู่กับอาคาร
  • มีความปลอดภัยสูงจาก Ground Potential Rise

การป้องกันอันตรายจากฟ้าผ่าต่อผู้คนที่อยู่บริเวณ Rooftop ของอาคารด้วยระบบแจ้งเตือนฟ้าผ่า Smart Lightning Warning System

  • ปัจจุบันอาคารสูงหลายๆ แห่งนิยมใช้พื้นที่เปิดโล่งบนหลังคา (Rooftop) เป็นพื้นที่จัดสวน จุดชมวิว ร้านอาหาร หรือใช้ดำเนินกิจกรรมต่าง ๆ แต่ในการออกแบบระบบป้องกันฟ้าผ่าสำหรับอาคารโดยทั่วไปจะเป็นการป้องกันสิ่งปลูกสร้างจากความเสียหายทางกายภาพที่เกิดจากฟ้าผ่า โดยอาจไม่ได้คำนึงถึงความปลอดภัยจากฟ้าผ่าต่อผู้คนที่อยู่บริเวณพื้นที่เปิดโล่งบนหลังคา



  • เพื่อลดความเสี่ยงจากฟ้าผ่าต่อบุคคลที่ประกอบกิจกรรมบริเวณพื้นที่เปิดโล่ง Kumwell ได้วิจัยและพัฒนานวัตกรรมระบบแจ้งเตือนภัยฟ้าผ่าอัจฉริยะหรือ Smart Lightning Warning System ซึ่งเป็นระบบที่สามารถแจ้งเตือนเหตุการณ์ฟ้าผ่าล่วงหน้าได้อย่างแม่นยำ โดยใช้ข้อมูลฟ้าผ่าจากโครงข่ายระบบตรวจจับฟ้าผ่า (Lightning Detection Sensor Network and Global Data) และข้อมูลการเปลี่ยนแปลงค่าสนามไฟฟ้าในพื้นที่จาก E-Field Sensor มาประมวลผลร่วมกันผ่านซอฟแวร์อัจฉริยะ (Alarm Viewer Software) ตามมาตรฐาน IEC 62793-2020 และ มอก. 3461-2565 เพื่อทำการแจ้งเตือนเหตุการณ์ฟ้าผ่าล่วงหน้า โดยเมื่อมีแนวโน้มว่าจะเกิดฟ้าผ่าอยู่ภายในบริเวณพื้นที่อาคาร ระบบจะทำการแจ้งเตือนเพื่อให้ผู้คนที่ประกอบกิจกรรมอยู่ในบริเวณพื้นที่เปิดโล่งหลบเข้าไปยังพื้นที่ปลอดภัยได้อย่างทันท่วงทีและสามารถแจ้งเตือนให้ผู้คนกลับมาประกอบกิจกรรมได้ทันทีเมื่อเข้าสู่สภาพอากาศปกติ


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้
เปรียบเทียบสินค้า
0/4
ลบทั้งหมด
เปรียบเทียบ